ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง?
ความคุ้มครองชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
คุ้มครองการบาดเจ็บของบุคคลและการเสียชีวิต รวมถึงทรัพย์สินของบุคคลภายนอกรถ เช่น รถยนต์ เสาไฟฟ้า
ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สิน ร่างกายและชีวิตของคู่กรณีและบุคคลภายนอก ที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุของรถที่ทำประกัน เช่น เสียชีวิต ทุพพลภาพไม่สามารถประกอบอาชีพใดๆ ได้ รวมถึงยังให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ อาทิ รถยนต์ เสาไฟ รั้วกำแพง ร้านค้า ซึ่งผู้เอาประกันภัยที่เป็นฝ่ายผิดจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย โดยบริษัทประกันจะรับผิดชอบด้วยการจ่ายค่าสินไหมชดเชยค่าเสียหายตามจริง แต่ไม่เกินจำนวนวงเงินที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์สุงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง
ความคุ้มครองความเสียหาย เมื่อเจออุบัติภัย ภัยธรรมชาติ
คุ้มครองกรณีรถเสียหายจากฝนตกน้ำท่วม ลูกเห็บตก แผ่นดินไหว ดินโคลนถล่ม และไฟป่า
ภัยธรรมชาติหมายถึง ภัยที่เกิดจากน้ำท่วม พายุ ลูกเห็บ แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด ถือเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย บริษัทประกันรถยนต์จะรับผิดชอบ ค่าซ่อมแซมความเสียหายของรถ แต่หากรถคันเอาประกันเสียหายจนไม่สามารถซ่อมให้กลับมาเป็นสภาพเดิมได้ เช่น ไฟไหม้บ้านหรือไฟไหม้ป่าก็อาจจะทำให้รถเราที่อยู่ใกล้ๆ ถูกไฟไหม้เกิดระเบิดไปด้วย หรือลมพายุพัดฝนฟ้าคะนองทำให้ต้นไม้หรือเสาไฟฟ้าล้มทับ หรือเสียหายจากน้ำท่วมรถทั้งคันไม่สามารถซ่อมได้ บริษัทประกันจะต้องคืนทุนประกันเท่ากับวงเงินประกันตามที่ระบุในกรมธรรม์
ความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์
ประกันรถชั้น 1 คุ้มครองรถเราทุกกรณี รถชน รถหาย ไฟไหม้ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก
ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุดต่อรถที่ทำประกันรวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถที่ระบุไว้ต้องทำประกันรถยนต์ เช่น รถชน รถคว่ำ รถหาย ไฟไหม้ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั้งรถที่ทำประกันและรถของคู่กรณี และในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีด้วย เข่น ชนรั้วกำแพง ชนสัตว์ เสาไฟฟ้า ฟุตปาธ นอกจากนี้ความคุ้มครองยังรวมไปถึงกระจกรถยนต์ เช่น กระจกแตกจากการโดนทุบ โจรกรรม โดยการเคลมจะมีทั้งแบบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ให้รถกลับมาอยู่ในสภาพเดิม
ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
ความคุ้มครองเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินชดเชยกรณีบาดเจ็บ เสียชีวิตของบุคคลภายในรถ รวมถึงเงินประกันตัวผู้ขับขี่
กรณีเกิดอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะมีความคุ้มครองแนบท้ายที่ครอบคลุมเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าผ่าตัด ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่นๆ รวมถึงมีความคุ้มครองอุบัติเหตุแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของรถที่ทำประกัน เช่น การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสำคัญ อาทิ ตา มือ เท้า ทำให้ทุพพลภาพถาวร ซึ่งกรณีถ้าเราเป็นฝ่ายผิดทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจนกลายเป็นคดีอาญา ประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังมีเงินประกันตัวผู้ขับขี่ไว้คอยช่วยเหลือออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดถูกควบคุมตัวเมื่อเป็นคดีอาญา
6. เมื่อเกิดอุบัติเหตุแต่คนขับไม่มีใบขับขี่ ประกันจะคุ้มครองหรือไม่ ?
> ในกรณีรถที่ขับเกิดอุบัติเหตุ และผู้ขับขี่ในขณะนั้นยังไม่มีใบขับขี่ ในกรณีแบบนี้ทางบริษัทประกันรถยนต์จะแยกออกเป็นสองเคส คือฝ่ายผิดและฝ่ายถูก ซึ่งจะมีการพิจารณาความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป ดังนี้
ในกรณีเป็นฝ่ายถูก
หากผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุและไม่มีใบขับขี่ แต่เป็นฝ่ายถูกและมีการเลือกทำประกันรถประเภท 1, 2+, 3+ บริษัทประกันจะรับผิดชอบในส่วนค่าซ่อมของรถคุณ อีกทั้งบริษัทประกันยังเรียกร้องค่าเสียหายจากฝ่ายผิดแทน แต่หากคุณไม่ได้ทำประกันรถยนต์ดังกล่าว คุณจะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณีเอง
ในกรณีเป็นฝ่ายผิด
หากเป็นกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด จะต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นฝ่ายผิดและไม่มีใบขับขี่จากสาเหตุอะไร เพื่อนำไปพิจารณา ดังนี้
→ไม่มีใบขับขี่หรือไม่เคยสอบใบขับขี่ บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายในทุกๆ กรณี แต่จะชดเชยความเสียหายต่อบุคคลภายนอกเช่นเดิมตามข้อตกลงที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์
→กรณีที่มีใบขับขี่แต่ไม่ได้พกมาด้วย คุณจะต้องหาสำเนาหรือหลักฐานเพื่อมายืนยันกับทางบริษัทประกัน ถึงจะได้รับความคุ้มครองทั้งรถของผู้เอาประกันและรถของคู่กรณี
→กรณีพกใบขับขี่แต่หมดอายุ ทางบริษัทประกันจะคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้กับบริษัทประกัน
→กรณีใบขับขี่ถูกยึด คุณจะต้องหาหลักฐานหรือสำเนามายืนยันกับทางบริษัทประกัน ทางประกันถึงจะให้ความคุ้มครองรถและคู่กรณี
7. หากเสียชีวิตในรถ ประกันคุ้มครองหรือไม่ ?
เมื่อมีการเสียชีวิตในรถคันที่ทำประกันไว้ ทางบริษัทประกันจะแยกพิจารณาตามประกันรถยนต์ภาคบังคับและประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งในส่วนของประกันภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. จะไม่ได้รับความคุ้มครอง เนื่องจากไม่ได้เสียชีวิตจากการใช้รถ แต่ในส่วนของประกันรถยนต์ภาคสมัครใจจะได้รับความคุ้มครอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ที่ได้ทำประกันรถเอาไว้ ตามเอกสารที่แนบไว้ตอนท้าย ถ้าหากมีการเสียชีวิตในรถ ทางประกันมีสิทธิ์ให้ความคุ้มครองตาม ร.ย. 01 เป็นประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล แต่หากได้รับบาดเจ็บจะได้รับความคุ้มครองและค่ารักษาพยาบาลตามความคุ้มครองของ ร.ย. 02 แทน
8. รถที่ทำประกันรถชั้น 1 แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับไม่ใช่ชื่อที่ระบุ เคลมประกันรถได้ไหม ?
หากรถที่คุณขับทำประกันชั้น 1 เอาไว้แบบระบุชื่อตั้งแต่แรก เมื่อเกิดอุบัติเหตุและผู้ขับขี่ขณะนั้นไม่ใช่ชื่อที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หากเป็นฝ่ายถูก คุณสามารถส่งเคลมประกันรถกับบริษัทประกันที่ทำไว้ได้ ไม่ว่าจะระบุชื่อคนขับหรือไม่ระบุชื่อก็ตาม เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายคู่กรณี แต่ถ้าเป็นฝ่ายผิด เจ้าของรถที่ถูกระบุชื่อในกรมธรรม์จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายให้กับคู่กรณี ทั้งทรัพย์สินและร่างกาย และหากต้องการซ่อมรถตัวเอง อาจต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทประกัน ในส่วนของ “ค่าผิดเงื่อนไข” นั่นเอง
9. ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร ?
> ค่าเสียหายส่วนแรก คือ กฎเกณฑ์ที่ทางคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดเอาไว้ให้ทุกบริษัทประกันภัยได้ใช้ในการดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์ให้คนขับรถมีความระมัดระวังในการขับรถมากขึ้น และเพื่อป้องกันผู้ขับขี่ที่แจ้งเคลมประกันรถแบบไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง เพื่อหวังซ่อมรถกับบริษัทประกันภัย ด้วยการขับรถประมาทหรือไม่ได้ใช้ความระมัดระวังมากพอ เพราะคิดว่าเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นกับรถ ก็สามารถแจ้งเคลมประกันรถกับทางบริษัทประกันได้เลย
ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
→ 1. ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับ (Excess) คือ ค่าเสียหายสำหรับการเคลมประกันรถแบบแห้ง ที่อาจเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนเสา ชนประตู ขอบถนน เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ต้องจ่ายกับไม่ต้องจ่าย
ในกรณีที่ต้องจ่าย คือ เมื่อไม่สามารถระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้ ได้แก่ ป้ายทะเบียน ตัวเลข ตัวอักษร จังหวัดที่ชัดเจนพอที่จะให้บริษัทประกันไปตามหาตัวคู่กรณีที่ต้องรับผิดชอบได้ และต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดความเสียหายกับรถยนต์ของเรา หรือได้รับอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่เอง
ในกรณีที่ไม่ต้องจ่าย คือ เมื่อคุณเป็นฝ่ายถูกและสามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นการชนแล้วทำให้เกิดความเสียหายถึงกับ บุบ แตก ร้าว ระบุสาเหตุความเสียหายได้ชัดเจนพอที่จะให้บริษัทประกันไปตามหาต้นเหตุจนพบคนที่ต้องรับผิดชอบได้
→ 2. ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจ (Deductible) คือ ค่าเสียหายที่ผู้ซื้อประกันยินยอมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเองในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด แลกกับการหักเงินส่วนต่างจากเบี้ยประกันทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ต้องจ่ายกับไม่ต้องจ่าย
ในกรณีที่ต้องจ่าย คือ เป็นฝ่ายผิด ซึ่งจะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรกตามเหตุการณ์ ที่ได้ตกลงกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ โดยลูกค้าจะได้ประโยชน์จากการที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ลดค่าเบี้ยประกันให้บางส่วน
ในกรณีที่ไม่ต้องจ่าย คือ เมื่อคุณเป็นฝ่ายถูกและสามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นการชนแล้วทำให้เกิดความเสียหายถึงกับ บุบ แตก ร้าว โดยระบุสาเหตุความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้ชัดเจนพอที่จะให้บริษัทประกันไปตามหาคู่กรณีคนที่ต้องรับผิดชอบได้ และในส่วนของส่วนลดเบี้ยประกันที่ตกลงเอาไว้ในตอนต้น จะถือว่าตกเป็นผลประโยชน์ของเจ้าของกรมธรรม์ทันที
10. ขายหรือโอนรถ ประกันรถยนต์ยังคุ้มครองอยู่หรือไม่ ? (เฉพาะซื้อขายกันเอง ไม่ผ่านเต้นท์รถ)
หากผู้เอาประกันขายหรือโอนรถให้ผู้อื่นโดยที่ไม่ได้มีการแจ้งยกเลิกประกันภัย ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันตามกรมธรรม์ประกันรถยนต์ และบริษัทประกันต้องรับผิดชอบตามกรมธรรม์และให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ต่อไปตลอดจนครบอายุของกรมธรรม์ที่เหลืออยู่ แต่ในกรณีที่กรมธรรม์มีการระบุชื่อผู้ขับขี่ ผู้เอาประกันภัยเดิมต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ต่อบริษัทประกันภัยทราบ เพื่อจะได้มีการปรับเปลี่ยนเรื่องอัตราเบี้ยประกันภัยตามความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยนไป
11. อายุมีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์จริงไหม ?
อายุมีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์โดยตรง ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยเบี้ยประกันรถยนต์แพง ผู้ขับขี่ที่มีอายุเยอะเบี้ยประกันรถยนต์ถูก เนื่องจากบริษัทประกันภัยเล็งเห็นว่า ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยมีโอกาสเกิดเหตุมากกว่า และมีอัตราความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าผู้ขับขี่ที่มาอายุเยอะและมีประสบการณ์สูง ส่วนผู้ขับขี่ที่มีอายุเยอะเบี้ยประกันรถยนต์จะถูกลง เนื่องจากมีประสบการณ์การขับขี่ค่อนข้างสูง โดยเบี้ยประกันจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับอายุของเจ้าของกรมธรรม์
12. ซ่อมห้างกับซ่อมอู่ ต่างกันอย่างไร ?
ซ่อมห้าง คือ การที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุต้องซ่อม เจ้าของรถยนต์นำรถยนต์ไปซ่อมที่ศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ หรือโดยอู่ที่ได้มาตรฐานคุณภาพเทียบเท่า ปกติแล้วประกันซ่อมห้างจะเป็นรถใหม่ที่มีอายุ 1-5 ปี ซึ่งอะไหล่ที่ใช้ซ่อมจะเป็นอะไหล่แท้จากศูนย์บริการเท่านั้น ซึ่งข้อเสียในการซ่อมห้าง คือ อาจต้องรอคิวซ่อมรถยนต์นาน
ซ่อมอู่ คือ การเข้ารับการซ่อมแซมตามอู่ทั่วๆ ไปที่มีข้อตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้แล้ว ในกรณีที่เป็นรถยนต์ใหม่อายุ 1-3 ปี บริษัทประกันภัยจะใช้อะไหล่ในการซ่อมจากศูนย์ของแท้ในการจัดซ่อม หากเป็นรถยนต์ที่มีอายุมาก อาจใช้อะไหล่มือสองในการซ่อมแซมหรืออะไหล่คุณภาพเทียบเท่าของแท้แทน
13. เราสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ไหม ?
ผู้เอาประกันภัยสามารถบอกยกเลิกกรมธรรม์ที่ทำอยู่กับบริษัทประกันภัยได้ ซึ่งต้องแจ้งบริษัทประกันภัยเป็นลายลักษณ์อักษร และมีสิทธิ์ได้รับเบี้ยประกันภัยคืนตามอัตราการคืนเบี้ยประกันภัยที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ โดยการยกเลิกกรมธรรม์จะมีผลหลังจากวันเวลาที่ระบุเอาไว้ในการแจ้ง
สรุป สิ่งที่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่คุ้มครองถูกระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ เป็นสิ่งที่บริษัทประกันหลายแห่งไม่ได้บอกไว้ ต้องค้นอ่านเอาถึงจะเจอ บางเหตุการณ์มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยก็จริง แต่การรู้เอาไว้ก็จะเป็นประโยชน์ในการใช้สิทธิ์เคลมประกันของคุณ ถึงแม้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 จะมีส่วนที่ไม่คุ้มครอง แต่การซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ก็ยังตอบโจทย์ที่สุด และถ้าคิดว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 มีราคาแพงซื้อไม่ไหว อยากให้นึกถึงประกันรถชั้น 1 ออนไลน์ แบบผ่อนเงินสดได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-7856
หรือกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่