1566 จำนวนผู้เข้าชม |
ส่วนสาเหตุสำคัญที่สายตาเป็นปกติเมื่อขับรถกลางวัน แต่กลับมีปัญหาเฉพาะตอนกลางคืน เป็นเพราะว่าช่วงเวลากลางวัน ‘แสงสว่าง’ ทำให้รูม่านตาหดเล็กลง จึงช่วยชดเชยการมองเห็นให้มีความคมชัดมากขึ้นนั่นเอง
วันนี้เราได้รวบรวมและแชร์รายละเอียดที่น่าสนใจ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาทั้งจากตัวคุณและรถยนต์ จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจหรือเป็นประโยชน์ยังไงบ้าง ไปติดตามพร้อม ๆ กับเราได้เลย
ตาบอดตอนกลางคืน และ สายตาสั้นตอนกลางคืน ต่างกันยังไง?
ตาบอด ตาฟางตอนกลางคืน (Night Blindness) จะแตกต่างกับอาการสายตาสั้นตอนกลางคืน (Night myopia) โดย
สายตาสั้นตอนกลางคืน (Night myopia) จะทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนในตอนกลางคืนที่มีแสงน้อย อาจมองเห็นภาพแสงเป็นแฉกภาพไม่คมชัด
ตาบอด ตาฟางตอนกลางคืน (Night Blindness) ตาบอดกลางคืน อาการคือจะมองไม่เห็น หรือเห็นฝ้าฟางในที่ที่มีแสงน้อย เช่น การขับรถตอนกลางคืน หากมองเห็นไม่ค่อยชัดอยู่แล้ว เมื่อมีแสงไฟหน้าของรถที่วิ่งสวนทางมาเข้าตา ทำให้มองไม่เห็นอะไรเลยหลายวินาที ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือรถชนกลางคืนได้ หากมีอาการแบบนี้แนะนำให้รีบปรึกษาจักษุแพทย์
เลนส์แว่นตาช่วยทำให้มองชัดตอนกลางคืนได้ยังไง?
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คุณขับรถกลางคืน มองไม่ชัด ก็คือค่าสายตาที่ผิดปกติ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยเลนส์แว่นที่มีค่าสายตาที่ถูกต้อง รวมถึงเลือกใช้ควบคู่กับเลนส์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน เนื่องจากเลนส์ประเภทนี้จะช่วยลดความคลาดเคลื่อน (Aberrations) ประเภทต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น
ลดแสงฟุ้งและแสงสะท้อนตอนกลางคืน
เพิ่มคอนทราสท์ในสภาวะที่มีแสงน้อย ช่วยให้การมองเห็นในที่มืด และแยกแฉกสีได้ชัดเจนมากขึ้น
หากสังเกตตัวเองแล้วพบว่าเริ่มมองกลางคืนไม่ชัด แถมยังไม่แน่ใจว่าอาการแบบนี้เข้าข่ายภาวะสายตาสั้นตอนกลางคืนหรือไม่ แนะนำให้เข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาในกวนใจในอนาคต
ทริคเลือกเลนส์แว่นตาขับรถตอนกลางคืน
การเลือกแว่นสายตาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน ถ้าหากคุณระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการแว่นตาขับรถตอนกลางคืน ร้านแว่นส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้เลนส์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนเท่านั้น
เนื่องจากเลนส์ประเภทนี้จะเป็นเลนส์ใส ไม่บดบังแสงเข้าสู่ดวงตา ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน แถมยังช่วยลดแสงสะท้อนของไฟถนน ไฟหน้ารถ ที่เกิดขึ้นกับผิวเลนส์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โรคที่เสี่ยงมีอาการตาพร่ามัวตอนกลางคืน
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตาของคุณมองไม่ค่อยในตอนกลางคืนคือโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ดังนี้
1. ร่างกายขาดวิตามิน เอ
ถ้าหากร่างกายขาดสารอาหารชนิดนี้ มั่นใจได้เลยว่าโรคนี้แหละ เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการตามัวเวลากลางคืน แนะนำให้รับประทานผักใบเขียว แครอท และวิตามินเสริม ซึ่งหากร่างกายของคุณได้รับวิตามิน เอ ที่เพียงพอแล้ว การรับประทานวิตามินเสริมจะไม่ช่วยรักษาอาการสายตาพร่ามัวในตอนกลางคืนให้ดีขึ้นได้
2. ได้รับสังกะสีไม่เพียงพอ
วิตามิน เอ ต้องทำงานร่วมกับสังกะสี ดังนั้นหากไม่อยากสายตาพร่ามัวในตอนกลางคืน ควรรับประทานสังกะสีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานสังกะสีจากถั่วเปลือกแข็ง สัตว์ปีก หรือเนื้อวัว
3. โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานถือเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดปัญหาสายตามัวตอนกลางคืน เนื่องจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน จะทำลายหลอดเลือดและเส้นประสาทในดวงตา ที่อาจทำให้เกิดภาวะเบาหวานขึ้นจอนั่นเอง แนะนำให้เข้ารับการรักษาโรคเบาหวานตามแบบปกติ และรับประทานอาหารที่สามารถป้องกันโรคเบาหวานได้
4. ต้อกระจก
ต้อกระจกมีสาเหตุมาจากเศษเซลล์ที่เกิดการสะสมจากการเติบโต และตายของเซลล์ในเลนส์ตา ต้อกระจกจะทำให้เลนส์ตาและสายตาฝ้ามัว ทำให้แสงที่ส่องเข้ามาในดวงตาเกิดการหักเหที่ผิดเพี้ยน อาจทำให้คุณเห็น halos หรือแสงทรงกลด และ starburst หรือแสงแฉกหรือสายตาพร่ามัว ข้อแนะนำเดียวที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ คือ ผ่าตัดต้อกระจก
วิธีเพิ่มทัศนวิสัยที่ชัดเจนขึ้น เมื่อต้องขับรถตอนกลางคืน
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ชอบขับรถตอนกลางคืน เนื่องจากสายตาที่พร่ามัว เห็นภาพตรงหน้าฟุ้งและเป็นแฉกสี เรามี “วิธีเพิ่มทัศนวิสัย” มาให้คุณปฏิบัติตาม ดังนี้
แก้ปัญหาจากตัวรถยนต์
ทำความสะอาดไฟหน้า หรือเปลี่ยนโคมไฟหน้าที่ขุ่นมัว เพื่อให้ไฟส่องสว่างได้เต็มประสิทธิภาพ
ไม่ติดฟิล์มรถยนต์บานหน้ารถ ด้วยความเข้มที่มากเกินไป
ทำความสะอาดกระจกหน้ารถ เพื่อให้ทัศนวิสัยชัดเจนมากที่สุด
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
ลดแสงสว่างทั้งบนแผงคอนโซล ไฟสร้างบรรยากาศ หรือไฟภายในห้องโดยสาร ขณะขับรถตอนกลางคืน
แก้ปัญหาจากตัวคุณ
หากรู้สึกว่ามองเห็นภาพไม่ชัดขณะขับรถตอนกลางคืน ควรตรวจสายตาเป็นประจำ เนื่องจากสายตาอาจมีปัญหาหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลง
คนที่มีความจำเป็นต้องใส่แว่นสายตา ไม่ว่าจะสั้น เอียง หรือยาว ควรเลือกเลนส์ที่เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน หรือ AR Coating
ทำความสะอาดเลนส์ของแว่นตาให้สะอาดอยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้คือทริคดี ๆ ในการเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นเมื่อขับรถตอนกลางคืนได้เป็นอย่างดี แถมยังมีวิธีที่สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาด้านค่าสายตาไม่จำเป็นจะต้องใส่แว่นตาขับรถ เพียงเพราะต้องการตัดแสงรบกวน เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะลดการมองเห็นในภาพรวม ทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงกว่าที่คิด