373 จำนวนผู้เข้าชม |
เหตุผลที่ทำให้ ประกันรถสปอร์ตมีราคาสูงกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ
ซุปเปอร์คาร์ (Super Car) ถือเป็นรถยนต์สมรรถนะสูง ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานด้านความเร็ว บวกกับมีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เครื่องยนต์ระดับไฮคลาส หากเกิดการเสียหายจำเป็นจะต้องเข้าอู่ซ่อมของค่ายนั้น ๆ โดยตรง ที่สำคัญ ! การเคลมรถซุปเปอร์คาร์แต่ละครั้งนั้น บอกเลยว่าค่าบำรุงรักษาสูงเอาการเลยล่ะ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ เบี้ยประกันรถซุปเปอร์คาร์ สูงขึ้นตามไปด้วย !
ประกันรถสปอร์ต จ่ายแพงกว่าและคุ้มครองมากกว่าจริงหรือ !?
เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันต้องบอกว่าไม่ว่าจะเป็นประกันรถสปอร์ตหรือประกันรถยนต์ ทั่วไป ย่อมมีรายละเอียดที่คล้ายคลึงกัน และให้ความคุ้มครองที่ “ใกล้เคียง” กัน แต่อาจจะมีความแตกต่างเล็กน้อย ดังนี้
1. เจ้าของรถสปอร์ต รุ่นพิเศษ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันรถสปอร์ตสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจาก “ทุนประกันสูงกว่า”
2. เจ้าของรถสปอร์ตจะต้องจ่าย “ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)” มากกว่าเช่นกัน โดยเริ่มต้นไม่ต่ำกว่าหลักแสน
3. รถสปอร์ตส่วนใหญ่จะนิยมทำการประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 เนื่องจากให้ความคุ้มครองสูงสุด ดูแลทุกเหตุการณ์บนท้องถนน ชดใช้ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งมีวงเงินประกันตัว (ผู้ขับขี่) ในกรณีที่อุบัติเหตุก่อให้เกิดคดีอาญา
*หมายเหตุ : หากผู้ขับขี่มึนเมาสุรา มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ การประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 “ไม่รับคุ้มครอง”
เกณฑ์การพิจารณา ประกันรถซุปเปอร์คาร์
เป็นรถยนต์ที่มีจำนวนประตูน้อยกว่า 4 ประตู
ขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร ขึ้นไป
กำลังเครื่องยนต์ 250 แรงม้า ขึ้นไป
น้ำหนักรถยนต์น้อยกว่า 2,000 กิโลกรัม
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5 วินาที หรือน้อยกว่า
ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือมากกว่า
“ราคาขายปีแรก” จากผู้จัดจำหน่ายเริ่มต้น 5 ล้านบาทขึ้นไป
.
สอบถามเพื่มเติมได้ที่
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785