รถล้มเองเบิก พ.ร.บ.ได้เท่าไหร่ เคลมค่ารักษาได้ไหม?

279 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถล้มเองเบิก พ.ร.บ.ได้เท่าไหร่ เคลมค่ารักษาได้ไหม?

รถล้มเอง เบิกพ.ร.บ.ได้เท่าไหร่ เคลมค่ารักษาได้ไหม?

"รถล้ม” เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งกับผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซต์ เช่น ขับรถล้มเอง ยิ่งหากเกิดเหตุรถล้มกลางคืนด้วยแล้ว ก็ยิ่งอันตรายกับผู้ขับขี่มากขึ้น โดยเฉพาะอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์แบบที่ไม่มีคู่กรณี แน่นอนว่าอุบัติเหตุนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์รถล้มเอง คนส่วนใหญ่เลยมักจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าพ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ที่ต่อไปนั้น หากเป็นกรณีรถล้มเองเบิก พ.ร.บ. ได้หรือไม่ หรือเรียกร้องค่าเสียหายอะไรได้บ้าง ทำดี จะมาตอบทุกข้อสงสัยกับทุกคนนะครับ

รถล้มเองไม่มีคู่กรณี เบิกพ.ร.บ. ได้เท่าไหร่?
พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ นั้นจะคุ้มครองผู้บาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุทุกกรณีโดย ไม่ต้องพิสูจน์ความผิด เช่น กรณีรถล้มเอง, ชนแล้วหนี หรือกรณีที่ยังไม่สามารถตัดสินความผิดได้ ดังนั้น รถล้มเองไม่มีคู่กรณี สามารถเบิกพ.ร.บ. ได้ แล้วพ.ร.บ. รถจักรยานยนต์เบิกอะไรได้บ้าง?



เมื่อขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุจนบาดเจ็บ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์จะคุ้มครองค่าเสียหายในการรักษาพยาบาล ทั้งตัวผู้ขับขี่และผู้ซ้อน ซึ่งการจ่ายค่าชดเชย

กรณีรถล้มเองหรือรถล้มแบบไม่มีคู่กรณีนั้น จัดอยู่ในการเกิดอุบัติเหตุโดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด ซึ่งจะแบ่งการจ่ายชดเชยออกเป็น 3 กรณี ดังนี้

  • กรณีบาดเจ็บ (จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง) วงเงินค่าชดเชยสูงสุด 30,000 บาท ต่อคน
  • กรณีเสียชีวิต / ทุพพลภาพถาวร / สูญเสียอวัยวะ วงเงินค่าชดเชยสูงสุด 35,000 บาท ต่อคน
  • กรณีบาดเจ็บ และเสียชีวิต / ทุพพลภาพถาวร / สูญเสียอวัยวะตามมา วงเงินค่าชดเชยสูงสุด 65,000 บาท ต่อคน
  • วงเงินค่าชดเชยข้างต้น หากเกิดเหตุรถล้มเองสามารถเบิกได้ทั้งผู้ขับและผู้ซ้อนเลย โดยจะต้องดำเนินการทางเอกสารภายใน 180 วัน หลังจากวันที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากที่มีการยื่นเอกสารอย่างครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับเงินชดเชยค่าเสียจากกรณีรถล้มครั้งนี้ภายใน 7 วัน


รถล้มเองเบิก พ.ร.บ. ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?


เพื่อให้คุณได้รับค่าชดเชยตามสิทธิที่ควรจะได้รับ เตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อยื่นดำเนินการตามกรณีต่าง ๆ ภายใน 180 วัน หลังจากวันที่เกิดเหตุ ดังนี้

  • กรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล
  • กรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล

เอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
    (สำหรับชาวต่างชาติสามารถใช้สำเนาหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ที่สามารถพิสูจน์ตัวตนผู้ประสบภัยแทนได้เช่นกัน)
  • ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
    (ย้ำว่าต้องเป็นฉบับจริงเท่านั้น)


กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร
เอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ ที่สามารถพิสูจน์ตัวตนผู้ประสบภัย ได้เช่นเดียวกับกรณีการเบิกค่ารักษาพยาบาล

สำหรับกรณีเบิกค่าสินไหมทดแทน เมื่อสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร มีเอกสารที่ต้องเตรียมได้แก่

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
    (สำหรับชาวต่างชาติสามารถใช้สำเนาหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ที่สามารถพิสูจน์ตัวตนผู้ประสบภัยแทนได้ เช่นเดียวกับกรณีการเบิกค่ารักษาพยาบาล)
  • ใบรับรองแพทย์ และหนังสือรับรองคนพิการ
  • สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน หรือสามารถใช้หลักฐานที่แสดงว่าผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์แทนได้เช่นกัน


กรณีเสียชีวิต
เอกสารที่ต้องเตรียมได้แก่

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิต
  • ใบมรณบัตร
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทายาทโดยธรรม และสำเนาทะเบียนบ้านของทายาทโดยธรรม
  • สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน และหรือหลักฐานที่แสดงว่าผู้ประสบภัยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์

นอกจากนี้หากค่ารักษาพยาบาลนั้นเกินวงเงิน ก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ ยังมีหักค่าใช้จ่ายจากสิทธิอื่น ๆ เพิ่มเติมได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทอง สำหรับผู้ที่ทำ ประกันอุบัติเหตุ ไว้ก็ยังมีสิทธิส่วนนี้ในการเบิกค่ารักษาหรือค่าเสียหายเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ


สรุป รถล้มเองเบิกพ.ร.บ.ได้หรือไม่?
ดังนั้น รถล้มเองเบิกพ.ร.บ.ได้อย่างแน่นอน พ.ร.บ. รถจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ทุกคันจะต้องมี เพราะจะช่วยคุ้มคุ้มครองผู้บาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุได้ทุกกรณี รถยนต์ที่ไม่มี พ.ร.บ. หรือ ขาดต่อพ.ร.บ. เป็นการกระทำผิดกฏหมาย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบเข้า ก็จะมีโทษปรับเป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท เลยทีเดียว ทำดี แนะนำให้ผู้ขับขี่ทุกท่านไม่ลืมที่จะต่ออายุ พ.ร.บ.ของรถทุกคัน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบ โทษปรับที่ต้องเสียนั้นไม่คุ้มกับค่าต่ออายุ พ.ร.บ. แน่นอน

และเพื่อความสบายใจในการใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ขับขี่ควรให้ความสำคัญ สำหรับใครที่ทำประกันรถอยู่แล้ว ก็อย่าลืมวางแผนต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้าเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองแบบต่อเนื่องด้วยนะครับพี่น้อง

และเพื่อความสบายใจในการใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ขับขี่ควรให้ความสำคัญ สำหรับใครที่ทำประกันรถอยู่แล้ว ก็อย่าลืมวางแผนต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้าเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองแบบต่อเนื่องด้วยนะครับ แถมโปรแบ่งจ่ายได้ 6-10 เดือนเลยนะครับ รีบจองก่อนจะหมดโปรนะครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก : คปภ. และ เงินติดล้อ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่     

โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-7856

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้