ทำไม? รถยนต์แต่ละกลุ่ม เบี้ยประกันรถยนต์ ถูก-แพงไม่เท่ากัน

347 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไม? รถยนต์แต่ละกลุ่ม เบี้ยประกันรถยนต์ ถูก-แพงไม่เท่ากัน

เหตุผลที่รถยนต์บางกลุ่มเบี้ยประกันภัยแพงกว่ากลุ่มอื่น เป็นเพราะคปภ.ได้กำหนดเกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์ในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมแก่ผู้ขับขี่ DirectAsia จะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มรถยนต์ รวมถึงยี่ห้อ และรุ่นรถ ที่มีผลต่ออัตราเบี้ยประกันภัยที่แพงขึ้น ทั้งนี้ เบี้ยที่ได้ ยังถูกคำนวณมาจากปัจจัยอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการแบ่งกลุ่มรถยนต์อีกด้วย มาอ่านกันเลย

เบี้ยประกันภัยของรถยนต์แต่ละกลุ่มที่ถูก-แพง ไม่เท่ากัน มาจากหลายปัจจัยประกอบกัน หนึ่งในปัจจัยหลักนั้นก็คือ “กลุ่มรถยนต์” โดยพิจารณาจาก รุ่นรถยนต์ ชนิดของรถยนต์ ขนาดเครื่องยนต์ ราคาอะไหล่ หรือค่าซ่อม ร่วมด้วย ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในมาตรา 30 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 โดยมีการจัดกลุ่มรถยนต์ ดังนี้
-
เกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์
กลุ่มรถยนต์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะแบ่งตามราคาอะไหล่ ค่าซ่อมรถยนต์ ยี่ห้อ และรุ่นรถยนต์ โดยมีเกณฑ์ดังนี้

กลุ่มที่ 1 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 5,000,000 บาท ขึ้นไป
กลุ่มที่ 2  คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 1,500,000 – 5,000,000 บาท
กลุ่มที่ 3 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 1,000,000 – 1,500,000 บาท
กลุ่มที่ 4 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 700,000 – 1,000,000 บาท
กลุ่มที่ 5 คือรถยนต์ราคาไม่เกิน 700,000 บาท
นอกจากนี้ คปภ.ยังพิจารณาให้ปรับกลุ่มรถยนต์ประเภทรถนำเข้า ขึ้น 1 ขั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ยี่ห้อ A ราคา 800,000 บาท จัดอยู่ในกลุ่มที่ 4 แต่เมื่อเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องปรับกลุ่มขึ้น 1 ขั้น จากกลุ่มที่ 4 จึงเลื่อนขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่ 3 แทน

-
ตารางแบ่งกลุ่มรถยนต์นั่ง
จากตาราง สามารถชี้แจงอัตราเบี้ยประกันภัยของรถยนต์ (รหัส 110 120 110E และ 120E) แต่ละกลุ่มได้ ดังต่อไปนี้

กลุ่มที่ 1 อัตราเบี้ยประกันจะสูงกว่ารถยนต์กลุ่มอื่น เนื่องจากมูลค่ารถยนต์ค่อนข้างราคาแพง อะไหล่สั่งทำเป็นพิเศษ รถมีสมรรถนะสูง บริษัทประกันภัย จึงต้องพิจารณาความเสี่ยงที่ครอบคลุมถึงความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์ และอุปกรณ์ส่วนควบที่ราคาสูงเหล่านั้นด้วย

กลุ่มที่ 2 จัดอยู่ในรถหรูขนาดเล็ก (Entry–Level Luxury) ไปจนถึง รถหรูระดับกลาง (Mid-Size Luxury) แม้จะเป็นรถยนต์ทั่วไปที่ราคาไม่สูงเท่ากลุ่มที่ 1 แต่บางรุ่นยังต้องนำเข้า หรือชิ้นส่วนผลิตจากต่างประเทศรวมอยู่ด้วย อัตราเบี้ยประกันจึงยังราคาสูงกว่ารถตามท้องตลาด

กลุ่มที่ 3-5 รถยนต์กลุ่มนี้ อัตราเบี้ยประกันค่อนข้างราคาดีกว่ากลุ่มที่ 1 และ 2 เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยม อะไหล่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถซ่อมแซมได้ไม่ยากนัก มีอู่ หรือศูนย์บริการให้เลือกเยอะ บริษัทประกันภัยจึงเสนอเบี้ยราคาที่ดีกว่า และพิจารณารับคุ้มครองได้รวดเร็วกว่ากลุ่มที่ 1 และ 2

 
กลุ่มที่ 1
ยี่ห้อรถ
รุ่นรถ
ASTON
MARTIN
BENTLEY

CADILLAC

DAIMLER

FERRARI

HONDA
LEGEND
JAGUAR
NSX, ODYSSEY และ PRELUDE
MASERATI

MG

NISSAN
PRESIDENT และ INFINITTY
PORSCHE
 
ROLLS-ROYCE

TOYOTA
SUPRA
กลุ่มที่ 2
ยี่ห้อรถ
รุ่นรถ
ALFA
ROMEO
AUDI

BMW

CHRYSLER

CITROEN

HOLDEN

ISUZU
TROOPER
JEEP CHEROKE

LAND ROVER

LEXUS

MAGSO

MAZDA
MX5
MERCEDES-BENZ

MITSUBISHI
PAJERO
OPEL
CALIBRA, OMAGA และ  VECTRA
PEUGEOT

ROVER

SAAB

TOYOTA
CELICA, CROWN, LAND, CRUISER และ RAV 4
VOLKSWAGEN

VOLVO

 

 



 
กลุ่มที่ 3 (รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุกทุกยี่ห้อ)
ยี่ห้อรถ
รุ่นรถ
CHEVROLET
ZAFIRA
DAIHATSU
GRAN และ TERIOS
FIAT

FORD

HONDA
ACCORD, CIVIC และ CRV
HYUNDAI

ISUZU
CAMEO, RODEO, VEGA และ VERTEX
KIA

MAZDA
121, 626, ASTINA, CRONOS และ LANTIS
MITSUBISHI
GALANT
NISSAN
CEFIRO, PRIMERA, 2005X และ 121
OPEL
ASTRA และ CORSA
PROTON
SEGA
SEAT

SUBARU
IMPREZA และ LEGACY
SUZUKI
ESTEEM และ VITARA
TOYOTA
CAMRY, CORONA และ STARLET
กลุ่มที่ 4
ยี่ห้อรถ
รุ่นรถ
MAZDA
323
MITSUBISHI
CHAMP
TOYOTA
COROLLA และ SPORT RIDER
CHEVROLET
OPTRA
กลุ่มที่ 5
ยี่ห้อรถ
รุ่นรถ
DAIHATSU
MIRA
HONDA
CITY
MAZDA
FAMILIA
NISSAN
NV และ SUNNY
SUZUKI
CARRIBIAN
TOYOTA
SOLUNA
 
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น อัตราเบี้ยประกันภัยไม่ได้ถูกคำนวณมาจากการแบ่งกลุ่มรถยนต์แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประวัติการขับขี่ ข้อมูลผู้ขับขี่ การใช้งานรถยนต์ หรืออายุการใช้รถยนต์ ก็มีผลต่อเบี้ยประกันรถที่ถูกลง หรือแพงขึ้นได้เช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้