206 จำนวนผู้เข้าชม |
ทำความเข้าใจ “กฎจราจร” ก่อน ฝ่าฝืนกฎจราจร แบบไม่รู้ตัว
กฎจราจร คือ “ส่วนหนึ่ง” ของกฎหมายจราจร ในการบังคับและควบคุมการจราจรบนท้องถนนให้เป็นไปอย่างสงบ ซึ่งกฎหมายจราจรที่ประเทศไทยใช้อยู่ในปัจจุบันคือ “พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับใหม่) พ.ศ.2565” โดยมีอัตราโทษตามกฎหมายดังต่อไปนี้
ขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร ปรับไม่เกิน 4,000 บาท จากเดิมไม่เกิน 1,000 บาท
ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท จากเดินไม่เกิน 500 บาท
ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท จากเดิมไม่เกิน 500 บาท
ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท จากเดิมไม่เกิน 500 บาท
ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิต และร่างกายของผู้อื่น โทษปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากโทษปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ละเมิดกฎหมายขับเร็ว ปรับไม่เกิน 4,000 บาท จากเดิมไม่เกิน 1,000 บาท
ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 4,000 บาท จากเดิมไม่เกิน 1,000 บาท
เมื่อได้รู้แล้วว่ากฎหมายจราจรฉบับใหม่มีการเปลี่ยนแปลงค่าปรับและโทษที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นควรจะปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากความประมาท แต่ถ้ารู้สึกว่า “อุบัติเหตุ” เป็นอะไรที่ยากเกินจะควบคุม แนะนำให้เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ที่พร้อมเคียงข้างคุณทุกการเดินทาง
มากไปกว่านั้นการทำผิดกฎจราจรอาจทำให้คุณมีปัญหาต่อการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีและ พรบ อีกด้วย หากไม่ชำระค่าปรับจากการทำผิดกฎจราจรให้เรียบร้อยก่อน ตัวรถจะไม่สามารถต่อภาษีได้
ประกันรถยนต์ ไม่ให้ความคุ้มครอง
กรณี “ทำผิดกฎหมายจราจร” เรื่องใดบ้าง?
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการทำผิดกฎจราจรบางอย่าง ส่งผลต่อการได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ด้วย โดยความผิดที่ว่า มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เมาแล้วขับ
กฎหมายกำหนดเอาไว้ว่าห้ามไม่ให้ขับขี่รถในขณะเมาสุรา ซึ่งถ้าหากคุณฝ่าฝืน นอกจากจะโดนตำรวจจับแล้ว ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบและไม่ให้ความคุ้มครองใด ๆ เนื่องจากมองว่าเป็น “เพิ่มความเสี่ยง” ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ขนของผิดกฎหมาย
ไม่ว่าจะเป็นการขนยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท จะรู้ก็ดีหรือไม่รู้ก็ดี ในกรณีที่รถยนต์คันดังกล่าวไปก่อเหตุมา บริษัทประกันจะไม่คุ้มครองใด ๆ ด้วยเช่นกัน
ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
ไม่มีใบขับขี่ และรวมถึงใบอนุญาตขับขี่หมดอายุด้วย หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย แนะนำให้พกใบขับขี่ติดตัวเอาไว้เสมอ หรือเมื่อเห็นว่าใบขับขี่ใกล้หมดอายุ ควรจะดำเนินการต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
ดัดแปลงสภาพรถเพื่อเอาไปใช้ในการแข่งความเร็ว
หากการดัดแปลงที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพื่อเพิ่มสมรรถภาพของรถ แต่เป็นการนำไปขับขี่แข่งในสนาม หรือบนถนนเส้นไหนก็ตาม บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าเป็นกรณีดัดแปลงเพื่อเพิ่มสมรรถภาพ เช่น ยาง โช้คอัพ ระบบเบรก หรืออื่น ๆ สามารถแจ้งบริษัทฯ เพื่อซื้อแผนความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละบริษัทฯ ด้วย
*หมายเหตุ: ในกรณีไม่แจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบถึงการดัดแปลงดังกล่าว บริษัทฯ อาจพิจารณาชดใช้เฉพาะชิ้นส่วนมาตรฐาน ไม่รวมส่วนที่ตกแต่งมาเพิ่มเติม
ซึ่งทั้งหมดนี้คือการทำผิดกฎจราจร ที่คุณควรพาตัวเองออกมาให้ไกลมากที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องปวดหัวกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น การเกิดคดีความต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการสูญเสีย แนะนำให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และขับขี่บนท้องถนนอย่างมีสติ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ
พฤติกรรมการขับขี่ ส่งผลต่อ “เบี้ยประกันรถยนต์” อย่างไร?
การทำผิดกฎจราจรจริง ๆ ไม่มีผลต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์โดนตรงแต่จะมีผลในทางอ้อม สำหรับคนที่มีประวัติการเคลมหรือประวัติการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่บนท้องถนนจนต้องเคลมซ่อม จะส่งผลต่อค่าเบี้ยประกัน มีผลกระทบต่อค่าเบี้ยทำให้มีราคาสูงกว่าคนที่ไม่มีประวัติการเคลมใด ๆ หรือไม่เคยมีอุบัติเหตุมาก่อน หากเป็นกรณีหลังนอกจากเบี้ยจะถูกกว่าแล้ว ยังมีโอกาสได้รับ “ส่วนลด” ค่าเบี้ยประกันเมื่อต่ออายุกรมธรรม์ปีถัดไปด้วย โดยมีเงื่อนไขดังนี้
ทำประกันรถยนต์กับบริษัทฯ เดิมอย่างต่อเนื่อง
ปีก่อนต่ออายุกรมธรรม์ไม่มีการแจ้งเคลมกรณีเป็นฝ่ายผิด หรือไม่มีคู่กรณี
ประกันรถยนต์ต้องขาดไม่เกิน 3 เดือน
ในกรณีที่คุณทำผิดกฎหมายจราจร ไม่ว่าจะตามที่เราบอกไปเมื่อข้างต้น หรือกฎจราจรข้ออื่น ๆ บริษัทฯ อาจพิจารณาค่าเบี้ยประกัน รวมถึงความคุ้มครองตามเหมาะสม หากไม่ต้องการแบกรับภาระค่าใช้จ่าย หรือความรับผิดชอบใด ๆ ที่อาจจะตามมาในอนาคต ทางที่ดีอย่าได้คิดทำผิดกฎจราจรจะดีที่สุด
สอบถามเพื่มเติมได้ที่
โทรเข้า Call Center คุณวุ้น : 085-389-785