บึ้ม! แบตเตอรี่รถระเบิดได้จริงหรือ? สาเหตุและวิธีป้องกัน

147 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บึ้ม! แบตเตอรี่รถระเบิดได้จริงหรือ? สาเหตุและวิธีป้องกัน

แบตเตอรี่รถบวมเป็นปัญหาที่พบเจอบ่อย และอาจก่อให้เกิดปัญหาในการสตาร์ทรถได้ หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจเกิดอันตรายได้ด้วยครับ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้แบตเตอรี่รถบวมมีดังนี้ครับ

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถบวม

อายุการใช้งาน: แบตเตอรี่ทุกชนิดมีอายุการใช้งานที่จำกัด เมื่อถึงช่วงอายุการใช้งาน แบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพและเกิดการบวมได้
การชาร์จไฟเกิน: ไดชาร์จของรถยนต์อาจชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่มากเกินไป ทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในและก่อให้เกิดการบวมได้
การชาร์จไฟไม่เพียงพอ: ถ้าไดชาร์จจ่ายไฟไม่พอ แบตเตอรี่จะทำงานหนักเกินไป ทำให้เกิดการสึกหรอและบวมได้
การสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยครั้ง: การสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยครั้งจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
อุณหภูมิที่สูงเกินไป: การจอดรถกลางแดดเป็นเวลานาน หรือการใช้งานรถในสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปและบวมได้
การรั่วซึมของกรด: ถ้ามีการรั่วซึมของกรดภายในแบตเตอรี่ อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้แบตเตอรี่บวมได้
การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม: การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม เช่น วิทยุ หรือไฟส่องสว่างภายในรถเป็นเวลานาน อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
คุณภาพของแบตเตอรี่: แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพต่ำ อาจมีปัญหาในการผลิต ทำให้เกิดความร้อนและบวมได้ง่าย


อันตรายจากแบตเตอรี่บวม

ระเบิด: แบตเตอรี่ที่บวมอาจระเบิดได้ โดยเฉพาะเมื่อถูกความร้อนหรือแรงกระแทก
กรดรั่ว: กรดภายในแบตเตอรี่อาจรั่วออกมา ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังและวัสดุรอบข้าง
ไฟไหม้: การระเบิดของแบตเตอรี่อาจทำให้เกิดประกายไฟและลุกลามเป็นไฟไหม้ได้
วิธีสังเกตว่าแบตเตอรี่บวม

แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้น: สังเกตว่าตัวแบตเตอรี่ปูดขึ้นมา
แบตเตอรี่รั่ว: มีคราบสีขาวหรือเขียวรอบๆ ขั้วแบตเตอรี่
สตาร์ทเครื่องยนต์ยาก: แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพจะทำให้สตาร์ทเครื่องยนต์ยาก
ไฟหน้ามืด: ไฟหน้าจะสว่างน้อยลง หรือกระพริบ


วิธีแก้ไขเมื่อแบตเตอรี่บวม

เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่: วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ด้วยแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ
ตรวจสอบระบบชาร์จ: ควรตรวจสอบระบบชาร์จของรถยนต์ว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่
ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า: ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งเพิ่มเติมว่าทำงานได้ถูกต้องหรือไม่


วิธีป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่บวม

ตรวจสอบแบตเตอรี่เป็นประจำ: ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นและความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ
เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน: เปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อถึงอายุการใช้งานที่กำหนด
หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมด: ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่เสมอ
หลีกเลี่ยงการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมเป็นเวลานาน
จอดรถในที่ร่ม: เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไป


คำแนะนำเพิ่มเติม

ควรปรึกษาช่างยนต์: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะตรวจสอบหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ ควรปรึกษาช่างยนต์ผู้เชี่ยวชาญ
เลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ: ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับรถของคุณ
.
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่                                         
 โทร Call Center ธีร์ โบรคเกอร์  096-192-9698

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้