ประกันชั้น 1 กับประกัน2+ แตกต่างกันอย่างไร

201 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประกันชั้น 1 กับประกัน2+ แตกต่างกันอย่างไร

ประกันชั้น 1 กับประกัน 2+ แตกต่างกันอย่างไร ?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ ประกันชั้น 2+ แทบจะให้ความคุ้มครองคล้ายกันทุกประการ แต่จะมีจุดแตกต่างกันตรงที่ ประกันรถยนต์ชั้น 1 มีคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถประกันจากอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกด้วย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและหลากหลายมากที่สุด โดยทั่วไปจะประกอบด้วย
1. คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ

  • ซ่อมรถของคุณในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดฃ
  • ความเสียหายจากเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ขูดขีด ชนเสา หรือชนรั้ว

2. คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

  • ชดเชยค่าเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่คุณเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุ

3. คุ้มครองชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอก

  • ชดเชยค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ หรือค่าชดเชยอื่น ๆ ให้กับบุคคลภายนอกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

4. คุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ

  • ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยในกรณีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

5. คุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้

  • ชดเชยในกรณีที่รถยนต์สูญหาย ถูกขโมย หรือเกิดไฟไหม้

6. คุ้มครองกรณีภัยธรรมชาติ

  • คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์)

7. คุ้มครองเพิ่มเติม (ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย)

  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน
  • ค่าเดินทางหรือค่าเช่ารถระหว่างซ่อม
  • คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์

หมายเหตุ: รายละเอียดและเงื่อนไขของการคุ้มครองอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทประกันภัย ควรตรวจสอบข้อกำหนดในกรมธรรม์หรือสอบถามกับบริษัทประกันภัยก่อนตัดสินใจซื้อประกันชั้น 1 เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด!

 

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มครองรองลงมาจากประกันชั้น 1 แต่ยังคงครอบคลุมความเสียหายสำคัญในราคาที่คุ้มค่า โดยทั่วไปจะให้ความคุ้มครองดังนี้
1. คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณในกรณีที่มีคู่กรณี

  • ซ่อมรถของคุณในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เฉพาะที่มีคู่กรณี (คู่กรณีต้องเป็นยานพาหนะทางบก เช่น รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์)
  • ไม่ครอบคลุมกรณีไม่มีคู่กรณี เช่น รถชนกำแพงหรือขูดขีด

2. คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

  • ชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เกิดจากอุบัติเหตุที่คุณเป็นฝ่ายผิด

3. คุ้มครองชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอก

  • ชดเชยค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตให้กับบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่คุณเป็นฝ่ายผิด

4. คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือไฟไหม้

  • ชดเชยในกรณีรถยนต์ถูกขโมยหรือเกิดไฟไหม้

5. คุ้มครองภัยธรรมชาติ (บางกรมธรรม์)

  • อาจมีการคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์)

6. คุ้มครองเพิ่มเติม (ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย)

  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน
  • การคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ (ในวงเงินที่กำหนด)

ความแตกต่างหลักจากประกันชั้น 1

  • ประกันชั้น 2+ ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้หรือกำแพง
  • ราคาเบี้ยประกันจะถูกกว่าชั้น 1
  • มีเงื่อนไขว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องมีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น

สรุป: ประกันชั้น 2+ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองในกรณีสำคัญ เช่น รถชนกับรถคันอื่น รถหาย หรือไฟไหม้ โดยที่ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันสูงเท่าชั้น 1 แต่ยังได้รับความคุ้มครองที่สำคัญในราคาประหยัด.

 

ข้อแตกต่างของประกันชั้น1 และกัน 2+

1.ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกัน

ประกันชั้น 1                                                                                                                                                                               

  • คุ้มครองรถยนต์ของคุณในทุกกรณี ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณี เช่น ชนเสาไฟ ชนกำแพง หรือรถถูกขูดขีด
  • คุ้มครองเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณีเป็น "ยานพาหนะทางบก" เช่น รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เท่านั้น

ประกันชั้น 2+

  • ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุโดยไม่ต้องมีคู่กรณี
  • ไม่ครอบคลุม กรณีที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ชนกำแพง ขับตกหลุม ฯลฯ

2.ความคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือไฟไหม้

  • ให้ความคุ้มครองในเรื่องเหมือนกัน

3.ความคุ้มครองบุคคลภายนอก

  • ให้ความคุ้มครองในเรื่องเหมือนกัน

4.ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ
ประกันชั้น 1

  • คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ

ประกันชั้น 2+

  • อาจมีหรือไม่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์

5.ความคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ

  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถเหมือนกัน

6.บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (บางบริษัท)

ประกันชั้น 1

  • มักรวมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น รถยก หรือช่างซ่อมฉุกเฉิน

ประกันชั้น 2+

  • อาจไม่มีหรือมีบริการนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์

7.ราคาเบี้ยประกันภัย
ประกันชั้น 1

  • เบี้ยประกันสูงกว่า เนื่องจากให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี

ประกันชั้น 2+

  • เบี้ยประกันถูกกว่าประกันชั้น 1 ประมาณ 30-50%

8.กรณีที่ไม่มีคู่กรณี
ประกันชั้น 1

  • คุ้มครองความเสียหายของรถคุณ เช่น ชนกำแพง ต้นไม้ หรือขับตกหลุม

ประกันชั้น 2+

  • ไม่คุ้มครอง กรณีไม่มีคู่กรณี

สรุปความแตกต่าง
ประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองรอบด้านและไม่ต้องการเสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น รถชนต้นไม้ ขูดขีด ฯลฯ

ประกันชั้น 2+ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าเบี้ยประกัน แต่ยังได้รับความคุ้มครองในกรณีสำคัญ เช่น อุบัติเหตุที่มีคู่กรณี รถหาย หรือไฟไหม้
หมายเหตุ: ตรวจสอบเงื่อนไขและรายละเอียดกรมธรรม์จากบริษัทประกันภัยก่อนซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าความคุ้มครองตรงกับความต้องการของคุณ.

 

 

 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่                                                     
 โทรหาคูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์  096-192-9698

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้