ส่วนลดประกันรถยนต์มีกี่แบบ? รู้ไว้จะซื้อหรือต่อก็คุ้มค่า

ซื้อประกันภัยรถยนต์ทำยังไงให้ได้ราคาค่าเบี้ยประกันคุ้มที่สุด รู้ใจลิสต์ส่วนลดประกันรถรูปแบบต่าง ๆ ที่บริษัทประกันภัยจะใช้พิจารณา มาให้ทำความรู้จักทั้งหมด 5 รูปแบบ ดังนี้

1. ส่วนลดประวัติดี
“ส่วนลดประกันภัยรถยนต์ ประวัติดี” คือ ส่วนลดค่าเบี้ยประกันสำหรับรถยนต์ที่ไม่เคยแจ้งเคลม ไม่แจ้งซ่อม ไม่แจ้งเปลี่ยนอะไหล่ และไม่เคยเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ตลอดอายุกรมธรรม์ ในกรณีที่เคยเรียกร้องแล้วเป็นฝ่ายถูก มีคู่กรณีผิด หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายที่บริษัทประกันสามารถเรียกค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกได้ จะได้ส่วนลดรูปแบบนี้ด้วยเช่นกัน

หากผู้เอาประกันไม่ได้เคลมในปีที่ผ่านมา จะได้รับส่วนลดเมื่อทำประกันในปีถัดไปในราคาที่ถูกลงดังนี้

• เมื่อขับดีไม่มีเคลมในปีแรก จะได้รับส่วนลด 20%
• เมื่อขับดีไม่มีเคลม 2 ปีติดต่อกัน จะได้รับส่วนลด 30%
• เมื่อขับดีไม่มีเคลม 3 ปีติดต่อกัน จะได้รับส่วนลด 40%
• เมื่อขับดีไม่มีเคลม 4 ปีติดต่อกัน จะได้รับส่วนลด 50%

เคลมแบบไม่ใช่ความผิดของเรา

ส่วนลดประวัติดี เป็นส่วนลดที่บริษัทประกันภัยมอบให้แก่ผู้เอาประกันที่มีประวัติการใช้งานที่ดี เช่น ไม่มีการเคลมประกันหรือมีการเคลมที่ไม่ได้เป็นความผิดของผู้เอาประกันในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

เงื่อนไขที่อาจทำให้ไม่ได้รับส่วนลด

• การเคลมที่เป็นความผิดของผู้เอาประกัน
• การเคลมที่มีจำนวนครั้งมากเกินเงื่อนไขที่กำหนด
• ไม่ต่อประกันภัยอย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ของส่วนลดประวัติดี

• ลดค่าเบี้ยประกันในปีถัดไป
• ส่งเสริมให้ผู้เอาประกันขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
  

หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ควรสอบถามกับบริษัทประกันภัยของคุณ เพราะเงื่อนไขอาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท

2. ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ เป็นส่วนลดที่บริษัทประกันภัยมอบให้สำหรับลูกค้าที่ระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ โดยจำกัดให้เฉพาะคนที่ระบุไว้ในเอกสารสามารถขับรถคันดังกล่าวได้เท่านั้น  ส่วนลดประกันรถยนต์ที่คำนวณความเสี่ยงในการขับขี่ด้วย ‘อายุ’ ของผู้ขับขี่ ซึ่งปกติจะมองว่าผู้ขับขี่ที่มีความชำนาญ และความรอบคอบในการขับขี่ตามวัยวุฒิจะได้รับราคาประกันภัยรถยนต์ที่ถูกลง โดยส่วนลดรูปแบบนี้สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ 2 – 5 คน ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยและนโยบายของบริษัท

หลักการของส่วนลดระบุผู้ขับขี่
บริษัทประกันจะถือว่าการระบุชื่อผู้ขับขี่ช่วยลดความเสี่ยง เพราะรู้ว่าผู้ขับขี่เป็นใคร มีความสามารถหรือประวัติการขับขี่อย่างไร
หากเกิดอุบัติเหตุโดยผู้ที่ไม่ได้ระบุชื่อในกรมธรรม์ ขอบเขตความคุ้มครองอาจลดลงหรือไม่ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไข

เกณฑ์ส่วนลดตามช่วงอายุของผู้ขับขี่
บริษัทประกันจะพิจารณาอายุผู้ขับขี่ที่ระบุในกรมธรรม์ และให้ส่วนลดตามระดับความเสี่ยงดังนี้:

• อายุ 18-24 ปี: ความเสี่ยงสูงที่สุด ลดน้อยที่สุด (ส่วนลดประมาณ 5%)
• อายุ 25-35 ปี: ความเสี่ยงปานกลาง ลดประมาณ 10%-15%
• อายุ 36-50 ปี: ความเสี่ยงต่ำที่สุด ลดสูงสุด (ประมาณ 15%-20%)
• อายุ 51 ปีขึ้นไป: ความเสี่ยงเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ลดประมาณ 10%

เงื่อนไขการใช้ส่วนลด
ระบุชื่อผู้ขับขี่ 1-2 คนในกรมธรรม์
ผู้ขับขี่ที่ระบุจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้อง
หากเกิดอุบัติเหตุและผู้ขับขี่ไม่ใช่บุคคลที่ระบุในกรมธรรม์:บริษัทอาจเรียกเก็บ "ค่าเสียหายส่วนแรก" (Deductible) ในจำนวนที่มากขึ้น
ความคุ้มครองอาจลดลงตามเงื่อนไข

ข้อดีของส่วนลดระบุผู้ขับขี่
ช่วยลดค่าเบี้ยประกัน 5%-20%
เหมาะสำหรับครอบครัวหรือผู้ที่ใช้งานรถเพียงไม่กี่คน

ข้อควรระวัง
หากรถมีผู้ใช้งานหลายคนที่ไม่ได้ระบุชื่อ การเคลมอาจยุ่งยากหรือไม่ครอบคลุม
ควรพิจารณาว่าเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานรถของคุณหรือไม่
หากต้องการใช้ส่วนลดนี้ 

3. ส่วนลดกลุ่ม เป็นส่วนลดที่บริษัทประกันภัยมอบให้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อประกันภัยพร้อมกันหรือมีเงื่อนไขร่วมกัน เช่น การซื้อประกันในนามบริษัท องค์กร หรือครอบครัว โดยเป็นการส่งเสริมให้ลูกค้าหลายรายเลือกใช้บริการประกันภัยจากบริษัทเดียวกัน

ลักษณะของส่วนลดกลุ่ม
สำหรับองค์กรหรือบริษัท

• องค์กรที่ซื้อประกันให้พนักงานจำนวนมาก หรือทำประกันรถยนต์สำหรับรถของบริษัท
• บริษัทประกันจะมอบส่วนลดพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าภายใต้ชื่อองค์กรเดียวกัน                                       

สำหรับครอบครัวและกลุ่ม

• หากสมาชิกในครอบครัวซื้อประกันรถยนต์หลายคันจากบริษัทเดียวกัน
• หรือกลุ่มเพื่อนที่ตัดสินใจซื้อประกันพร้อมกัน
• อาจได้รับส่วนลดเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น

กลุ่มอาชีพพิเศษ

• บางบริษัทมอบส่วนลดให้กับกลุ่มลูกค้าในอาชีพเฉพาะ เช่น ข้าราชการ ครู ทหาร หรือพนักงานขององค์กรที่มีความร่วมมือกับบริษัทประกัน

ประกันรถยนต์กลุ่ม (Fleet Insurance)

• สำหรับธุรกิจที่มีการใช้รถยนต์หลายคัน เช่น รถเช่า รถขนส่ง
• ส่วนลดจะพิจารณาตามจำนวนรถยนต์ที่ประกัน

ประโยชน์ของส่วนลดกลุ่ม

• ลดค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราพิเศษ
• เพิ่มความสะดวกในการจัดการกรมธรรม์สำหรับกลุ่มใหญ่
• ได้รับเงื่อนไขพิเศษ เช่น การบริการหลังการขาย หรือสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม

เงื่อนไขและข้อควรพิจารณา
จำนวนสมาชิกหรือจำนวนรถ

• ส่วนลดมักจะขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกหรือรถในกลุ่ม
• ยิ่งจำนวนมาก ส่วนลดก็ยิ่งมาก

การจัดการเคลม

• สำหรับกลุ่มองค์กร อาจมีการจัดการเคลมแบบรวม เพื่อความสะดวก
  

การต่อประกัน

• หากสมาชิกในกลุ่มไม่ต่อประกันในปีถัดไป อาจมีผลต่อส่วนลดกลุ่ม

ตัวอย่างส่วนลดกลุ่ม

• บริษัทที่ทำประกันให้รถยนต์ 10 คันขึ้นไป อาจได้รับส่วนลด 10%-20%
• ครอบครัวที่ทำประกันรถ 3 คันขึ้นไป อาจได้รับส่วนลด 5%-10%

4. ส่วนลดติดกล้องหน้ารถ เป็นส่วนลดที่บริษัทประกันภัยมอบให้กับผู้ที่ติดตั้ง กล้องติดรถยนต์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและช่วยลดข้อพิพาทในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

รายละเอียดของส่วนลดติดกล้องหน้ารถ

อัตราส่วนลด

• ส่วนลดสำหรับการติดกล้องหน้ารถมักอยู่ที่ประมาณ 5%-10% ของเบี้ยประกันภัย
• คิดจากเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1, 2+, 3+)
  

ประโยชน์

• ลดค่าเบี้ยประกันภัย
• ช่วยบันทึกหลักฐานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เช่น พิสูจน์ว่าใครเป็นฝ่ายผิด
  

เอกสารที่ต้องใช้

• ภาพถ่ายหรือหลักฐานยืนยันว่ามีการติดตั้งกล้องหน้ารถ
• อาจต้องส่งไฟล์วิดีโอหรือแสดงกล้องที่ติดตั้งจริงในบางกรณี
  

 ข้อดีของการใช้กล้องติดรถยนต์

ลดข้อโต้แย้งในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

• วิดีโอจากกล้องสามารถใช้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าใครเป็นฝ่ายผิด

ช่วยป้องกันการฉ้อโกง

• ลดโอกาสที่จะถูกกล่าวหาโดยฝ่ายที่พยายามเรียกร้องค่าเสียหายอย่างไม่ถูกต้อง

เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

• คนขับรถอาจระมัดระวังมากขึ้นเมื่อมีกล้องบันทึก
  

ข้อกำหนดและเงื่อนไข
ตำแหน่งการติดตั้งต้อง

• ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น บริเวณหน้ากระจกเพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะขับขี่

การบันทึกวิดีโอ

• กล้องต้องสามารถบันทึกวิดีโอได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน
  

ข้อยกเว้น

• หากกล้องไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ อาจมีผลต่อการเคลมประกัน

ขั้นตอนการรับส่วนลด

• ติดตั้งกล้องหน้ารถให้เรียบร้อย
• แจ้งบริษัทประกันภัยขณะทำประกันหรือก่อนต่อประกัน
  
• ส่งหลักฐานการติดตั้ง เช่น รูปภาพหรือใบเสร็จรับเงิน
  
• บริษัทประกันจะคำนวณส่วนลดและแจ้งค่าเบี้ยประกันที่ลดลง
  
  

5. ส่วนลดพิเศษและบริการเสริมจากโบรกเกอร์ 

โบรกเกอร์มักจะมีส่วนลดพิเศษและบริการเสริมเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่หรือรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยบริการเสริมและส่วนลดต่างๆ 

ส่วนลดค่าคอมมิชชั่น

• โบรกเกอร์บางรายอาจเสนอส่วนลดค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายในบางกรณี เช่น สำหรับผู้ที่มียอดการซื้อขายสูง หรือเปิดบัญชีใหม่
  

โปรโมชั่นเปิดบัญชีใหม่

• บางโบรกเกอร์จะให้เงินโบนัสหรือส่วนลดพิเศษเมื่อผู้ใช้เปิดบัญชีใหม่ โดยอาจเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดฝากครั้งแรก หรือโบนัสในรูปแบบของเครดิตการซื้อขาย
  

บริการแนะนำการลงทุน

• บริการให้คำปรึกษาการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญฟรีหรือในราคาลดพิเศษ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น

การเข้าถึงเครื่องมือการวิเคราะห์และข้อมูลตลาด

• บางโบรกเกอร์จะให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ เช่น กราฟ, อินดิเคเตอร์, หรือข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การฝึกอบรมและสัมมนา

• บางโบรกเกอร์อาจมีการฝึกอบรมการลงทุนออนไลน์หรือสัมมนา เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนเรียนรู้และปรับปรุงทักษะการลงทุน

บริการลูกค้าส่วนบุคคล

• สำหรับลูกค้าระดับ VIP หรือผู้ที่มียอดการลงทุนสูง โบรกเกอร์อาจมีการให้บริการลูกค้าโดยเฉพาะ เช่น การให้คำแนะนำแบบส่วนตัว หรือการติดต่อผ่านผู้จัดการบัญชี

การเลือกโบรกเกอร์ที่มีข้อเสนอที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณสามารถช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่                                          
 โทรหาคูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์  096-192-9698