ทะเบียนรถขาด ทำยังไงดี? แนะนำทุกขั้นตอนแบบง่ายๆ ให้กลับมาขับได้สบายใจอีกครั้ง!

38 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทะเบียนรถขาด ทำยังไงดี? แนะนำทุกขั้นตอนแบบง่ายๆ ให้กลับมาขับได้สบายใจอีกครั้ง!

รถทะเบียนขาด คืออะไร?

รถทะเบียนขาด หมายถึง รถที่ไม่ได้ต่อทะเบียนหรือชำระภาษีประจำปีภายในกำหนดเวลา (ปกติคือทุกปีตามที่ระบุในใบคู่มือจดทะเบียนรถ) ซึ่งส่งผลให้สถานะการใช้งานของรถไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

 

รถทะเบียนขาดต่อภาษี ทำธุรกรรมอะไรได้บ้าง?

หากรถของคุณมีการขาดต่อภาษี (ทะเบียนรถหมดอายุ) คุณจะไม่สามารถดำเนินการบางธุรกรรมที่เกี่ยวกับรถได้ เช่น การขายรถ หรือการโอนกรรมสิทธิ์ จนกว่าจะทำการต่อภาษีให้เรียบร้อย แต่ยังสามารถทำธุรกรรมบางอย่างได้ เช่น:

1. เปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ถือกรรมสิทธิ์ (กรณีที่ไม่เกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์) เช่น การเปลี่ยนชื่อที่อยู่ในสมุดทะเบียนรถ
2. ตรวจสภาพรถ ได้ (หากต้องการตรวจสอบสภาพรถเพื่อความปลอดภัย)
3. ต่ออายุภาษี และ ตรวจสอบข้อมูลรถ ผ่านช่องทางออนไลน์หรือที่สำนักงานขนส่ง
การต่อภาษีรถต้องชำระค่าภาษีและค่าปรับ (ถ้ามี) สำหรับการขาดการต่อภาษีตามระยะเวลาที่กำหนด.

 

หากรถทะเบียนขาดไม่เกิน 3 ปี คุณยังสามารถทำการต่อภาษีได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสภาพรถใหม่ แต่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้

1. ชำระภาษีที่ค้างอยู่       

  • ชำระภาษีตามปีที่ขาดไป รวมถึงปีปัจจุบัน                                                                     
  • จะต้องจ่ายค่าภาษีสำหรับแต่ละปีที่ขาด รวมถึงค่าปรับสำหรับการขาดการต่อภาษี โดยปกติค่าปรับจะคำนวณจาก 1,000 บาทต่อปีที่ขาด

2. การตรวจสภาพรถ

  • หากขาดภาษีไม่เกิน 3 ปี ปกติจะไม่ต้องตรวจสภาพรถใหม่ หากรถไม่มีปัญหาหรือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
  • แต่หากมีเหตุผลอื่น ๆ ที่ขอให้ตรวจสภาพรถ (เช่น รถเก่า หรือมีปัญหา) เจ้าหน้าที่อาจขอให้ตรวจสภาพ

3. เอกสารที่ต้องใช้

  • สมุดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน)
  • บัตรประชาชนของเจ้าของรถ
  • ค่าภาษีและค่าปรับ (หากมี)
4. ช่องทางการต่อภาษี
  • สามารถต่อภาษีได้ที่สำนักงานขนส่ง หรือผ่านช่องทางออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก

เพียงแค่ชำระภาษีและค่าปรับที่ค้างอยู่ คุณก็จะสามารถต่อภาษีและรับสติ๊กเกอร์แสดงการต่อภาษีได้ทันที.

หากรถของคุณภาษีขาดเกิน 3 ปี

ขั้นตอนในการต่อภาษีจะมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้รถที่ขาดการต่อภาษีเกิน 3 ปี ต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้:
หากรถของคุณขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี คุณจะต้องเตรียมเอกสารและดำเนินการตามขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถต่อภาษีได้ โดยเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมมีดังนี้:


1. เอกสารที่ต้องเตรียม
  • สมุดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน)
2. ต้องนำเล่มทะเบียนรถมาแสดงเพื่อใช้ในการทำธุรกรรม
  • บัตรประชาชนของเจ้าของรถ

3. เจ้าของรถต้องมีบัตรประชาชนตัวจริง และอาจต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนด้วย
เอกสารอื่น ๆ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

  • หากเจ้าของรถเป็นนิติบุคคล ต้องใช้สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท และ สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม พร้อมกับ ใบรับรองการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ. 20) หากมี
4. ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
  • รถที่ขาดภาษีเกิน 3 ปีจะต้องผ่านการตรวจสภาพรถที่ กรมการขนส่งทางบก หรือสถานีบริการตรวจสภาพรถ (ตรอ.) การตรวจสภาพรถจะต้องได้รับการรับรองก่อนที่จะสามารถต่อภาษีได้

5. ใบเสร็จการชำระค่าภาษีที่ค้างอยู่

  • ค่าภาษีที่ค้างอยู่ (รวมถึงปีที่ขาดและปีปัจจุบัน) จะต้องชำระครบถ้วน โดยมีค่าปรับสำหรับการขาดการต่อภาษีในแต่ละปี ค่าปรับจะคิดเป็น 1,000 บาทต่อปีที่ขาด

ขั้นตอนเพิ่มเติม

  • การตรวจสภาพรถ: หากรถมีอายุเกิน 7 ปีหรือมีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบบางประการ อาจจะต้องตรวจสภาพรถใหม่ที่กรมการขนส่งหรือสถานีตรอ. ก่อนที่จะดำเนินการต่อภาษี
  • ชำระค่าภาษี: เมื่อผ่านการตรวจสภาพรถแล้ว ต้องทำการชำระค่าภาษีที่ค้างทั้งหมด พร้อมค่าปรับ
    เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนและชำระภาษีเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถต่อภาษีและรับสติ๊กเกอร์ภาษีใหม่สำหรับรถของคุณได้.

สรุป การขาดต่อภาษีรถยนต์ 3 ปี

เมื่อรถยนต์ขาดการต่อภาษีเกิน 3 ปี จะต้องดำเนินการตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบกหรือสถานีตรอ. ก่อน ต่อภาษีสามารถทำได้หลังจากผ่านการตรวจสภาพและชำระภาษีที่ค้าง รวมถึงค่าปรับ 1,000 บาทต่อปีที่ขาด การต่อภาษีจะต้องมีการเตรียมเอกสารเช่น เล่มทะเบียน, บัตรประชาชน, และใบรับรองการตรวจสภาพรถ เจ้าของรถต้องชำระค่าภาษีทุกปีที่ขาด เพื่อรับสติ๊กเกอร์ภาษีใหม่.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้