ไม่ว่าจะโอนตรง โอนลอย โอนมรดก ล่าสุดมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร และควรโอนรถยนต์หลังการซื้อ-ขาย ภายในระยะเวลากี่วัน ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ที่ไหนอย่างไร
การ โอนรถยนต์ คือ กระบวนการเปลี่ยนแปลงเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์จากผู้หนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยปกติจะเกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อขายรถยนต์ หรือมอบให้เป็นของขวัญ/มรดก การโอนรถยนต์ต้องดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบก และประกอบด้วย
ค่าใช้จ่ายในการโอนรถยนต์
- ค่าธรรมเนียมการโอน: 500 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถ: 50 บาท (กรณีต้องตรวจสภาพเพิ่มเติม)
- ค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์: 0.5% ของราคารถยนต์ (ตามราคาประเมินกรมการขนส่งทางบก)
- ค่าคำขอ: 5 บาท
รวมคร่าว ๆ: อาจประมาณ 600–1,000 บาท ขึ้นอยู่กับราคาประเมินของรถยนต์เอกสารที่ต้องเตรียม ภาพจาก : https://car.kapook.com/view274641.html
บัตรประชาชน
- ผู้ขาย: สำเนาพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
- ผู้ซื้อ: สำเนาพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
สัญญาซื้อขายรถยนต์ (แบบฟอร์มซื้อขาย)
ใบมอบอำนาจ (กรณีที่ผู้ขายหรือผู้ซื้อไม่ได้มาดำเนินการเอง)
- พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ
หลักฐานการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่ยังไม่หมดอายุ
ใบตรวจสภาพรถ (ถ้ารถยนต์อายุเกิน 7 ปี หรือต้องตรวจใหม่)
สำหรับขั้นตอนการโอนรถข้ามจังหวัด สามารถนำเอกสารไปติดต่อที่สำนักงานขนส่งพื้นที่จังหวัดนั้น ๆ ได้ โดยกรอกเอกสารต่าง ๆ ให้เรียบร้อย หากต้องการใช้เลขทะเบียนเดิมให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในขั้นตอนนี้ได้เลย จากนั้นให้รอดำเนินการประมาณ 3 วัน เจ้าหน้าที่จะนัดให้นำรถเข้ามาตรวจสภาพที่สำนักงาน หากไม่ได้ใช้เลขทะเบียนเดิมเจ้าหน้าที่จะทำการถอดป้ายทะเบียนเดิมออก และในวันรับเล่มทะเบียนให้เตรียมเอกสารมาอีก 1 ชุด ได้แก่
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสือจดทะเบียนบริษัท (กรณีชื่อผู้ครอบครองเป็นนิติบุคคล)
- หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ของผู้โอนและผู้รับโอน
- ใบคำขอโอนรถและรับรถ
จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อรอรับป้ายทะเบียนและเล่มทะเบียนใหม่
ขั้นตอนดำเนินการ
- นำรถไปที่สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้
- ตรวจสอบเอกสารและชำระค่าธรรมเนียม
- รับเล่มทะเบียนรถใหม่ที่ระบุชื่อผู้ซื้อ
ถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการช่วยจัดการเรื่องเอกสาร บอกได้เลยนะคะ!
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร Call Center ธีร์ทำดีแคร์ 096-192-9698