ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างและต้องเสียค่าปรับเท่าไหร่ !!

114 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างและต้องเสียค่าปรับเท่าไหร่ !!

ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่จะทำการต่อภาษีนั้นจะต้องมี พ.ร.บ. เสียก่อน หากเป็นรถใหม่อายุไม่เกิน 5 ปี สามารถซื้อ พ.ร.บ.จักรยานยนต์ ได้ที่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ทั่วประเทศ

แต่หากรถมีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป ต้องทำการตรวจสภาพรถก่อนได้ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่งที่ได้การรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ส่วนค่าประกัน พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ จะขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์ ดังนี้
 


                                                                                                                                                                                                           

1. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
ไม่เกิน 75 ซี.ซี. ปีละ 161.57 บาท
เกิน 75-125 ซี.ซี. ปีละ 323.14 บาท
เกิน 125-150 ซี.ซี. ปีละ 430.14 บาท
เกิน 150 ซี.ซี. ขึ้นไป ปีละ 645.21 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปีละ 323.14 บาท


2. รถจักรยานยนต์รับจ้าง
ไม่เกิน 75 ซี.ซี. ปีละ 161.57 บาท
เกิน 75-125 ซี.ซี. ปีละ 376.64 บาท
เกิน 125-150 ซี.ซี. ปีละ 430.14 บาท
เกิน 150 ซี.ซี. ขึ้นไป ปีละ 645.21 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปีละ 323.14 บาท


3. รถจักรยานยนต์ให้เช่า
ไม่เกิน 75 ซี.ซี. ปีละ 161.57 บาท
เกิน 75-125 ซี.ซี. ปีละ 376.64 บาท
เกิน 125-150 ซี.ซี. ปีละ 430.14 บาท
เกิน 150 ซี.ซี. ขึ้นไป ปีละ 645.21 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปีละ 323.14 บาท

ข้อมูลจาก https://car.kapook.com/view250718.html

 

 

ค่าตรวจสภาพรถ

รถจักรยานยนต์ที่ต้องการต่อทะเบียน แล้วมีอายุในการจดทะเบียนเกิน 5 ปี ต้องมีการตรวจสภาพรถก่อนทุกครั้ง โดยสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ ตรอ. ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก โดยจะมีค่าตรวจสภาพคันละ 60 บาท


เตรียมเอกสารที่จำเป็น

1.เล่มทะเบียนรถ (ตัวจริงหรือสำเนา)                                                                                                                                    2.สำเนากรมธรรม์ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่ยังไม่หมดอายุ (สามารถซื้อได้ที่ขนส่งหรือผ่านตัวแทน)
3 .เงินสำหรับชำระค่าภาษี (ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์และอายุการใช้งานของรถ)

เมื่อนำรถไปตรวจสภาพ (รถที่มีอายุเกิน 5 ปี) และมี พ.ร.บ.จักรยานยนต์ เรียบร้อยแล้ว นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นเสียภาษีประจำปีได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสามารถ ต่อภาษีประจำปีได้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์
  
ค่าภาษีรถจักรยานยนต์ในปี 2567 จะขึ้นอยู่กับ ขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) ของรถจักรยานยนต์คุณ และค่าใช้จ่ายสำหรับการทำ พ.ร.บ. ภาคบังคับเพิ่มเติมด้วย


การเตรียมเงินสำหรับการต่อภาษีรถจักรยานยนต์ ขึ้นอยู่กับประเภทของรถและขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
ค่าภาษีขึ้นอยู่กับ ขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี):

ไม่เกิน 150 ซีซี: ประมาณ 100-300 บาท/ปี
151-500 ซีซี: ประมาณ 300-1,000 บาท/ปี
เกิน 500 ซีซี: 1,000 บาทขึ้นไป/ปี
(กรณีรถใหม่ ค่าภาษีจะลดหลั่นตามอายุการใช้งาน)

2. รถจักรยานยนต์สาธารณะ (มอเตอร์ไซค์รับจ้าง)
ค่าภาษีจะแพงกว่ารถส่วนบุคคลเล็กน้อย โดยทั่วไปอยู่ที่ 250-500 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์

3. รถพ่วงข้างของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
รถพ่วงข้างถือว่าเป็นการใช้งานพิเศษ จึงมีค่าภาษีเพิ่มจากรถจักรยานยนต์ปกติ
โดยประมาณอยู่ที่ 300-500 บาท/ปี

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล: ประมาณ 300-600 บาท/ปี
รถจักรยานยนต์สาธารณะ: ประมาณ 600-800 บาท/ปี
ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ ได้ที่ไหนบ้าง

1. สำนักงานขนส่ง
  • ทุกสำนักงานขนส่งจังหวัดและอำเภอทั่วประเทศ
  • เวลาเปิดทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.30-16.30 น. (บางแห่งเปิดเสาร์-อาทิตย์)
  • มีบริการ Drive Thru ต่อภาษี สำหรับความสะดวก

2. จุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส

  • 7-Eleven, Big C, Tesco Lotus
  • สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการต่อภาษีใกล้บ้าน
  • ใช้เอกสารครบถ้วน และรับป้ายวงกลมทางไปรษณีย์

 

หากคุณ ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ช้า จะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้:
1. ค่าปรับเนื่องจากการล่าช้าปรับอัตรา 1% ต่อเดือน ของค่าภาษีที่ต้องจ่าย

ตัวอย่าง:

หากค่าภาษีประจำปีคือ 300 บาท
  • ล่าช้า 1 เดือน: ปรับเพิ่ม 3 บาท (1% ของ 300)
  • ล่าช้า 6 เดือน: ปรับเพิ่ม 18 บาท (1% ต่อเดือน x 6 เดือน)
  • ยอดค่าปรับจะสะสมไปเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ชำระ

2. กรณีล่าช้าเกิน 1 ปี

  • ทะเบียนรถจะถูกระงับชั่วคราว
  • หากต้องการต่อภาษี ต้องชำระค่าภาษีพร้อมค่าปรับย้อนหลัง

3. กรณีล่าช้าเกิน 3 ปี

  • ทะเบียนจะถูกยกเลิก
  • คุณจะต้องดำเนินการจดทะเบียนรถใหม่ทั้งหมด ซึ่งยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่                                              
 โทร Call Center ธีร์ทำดีแคร์  096-192-9698

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้