วิธีเลือกใช้ยางสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงควรเลือกใช้งานแบบไหน?

136 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีเลือกใช้ยางสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงควรเลือกใช้งานแบบไหน?

 วิธีการเลือกใช้ยางสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง ควรเลือกใช้งานแบบไหน?    

       การเลือกยางสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง (High-Performance Tires) เป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากยางมีผลต่อการขับขี่ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพโดยรวมของรถยนต์ การเลือกยางที่เหมาะสมจะช่วยให้รถมีการยึดเกาะถนนที่ดี, การควบคุมที่แม่นยำ และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ นอกจากนี้ยังช่วยลดการสึกหรอของยางและยืดอายุการใช้งาน

 

 

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกยางสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง

         1. ประเภทของยาง (Tire Type) ยางสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงมักมี 3 ประเภทหลัก

  • ยางแบบ Performance Tires (ยางสมรรถนะสูง) : ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนน, ความเร็วสูง, และการควบคุมที่แม่นยำ เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ต้องการสมรรถนะดี เช่น บนถนนที่แห้งและเปียก
  • ยางแบบ Summer Tires (ยางฤดูร้อน) : ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในสภาพอากาศร้อนหรือแห้ง เหมาะสมที่สุดในช่วงฤดูร้อน แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในอากาศหนาวหรือในหิมะ
  • ยางแบบ All-Season Tires (ยางแบบหลายฤดู) : เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในทุกฤดู แต่ในรถสมรรถนะสูงจะมีการยึดเกาะที่น้อยกว่ายางสำหรับฤดูร้อนหรือฤดูหนาว

         2. ขนาดของยาง (Tire Size) : ขนาดยางมีผลต่อการขับขี่ โดยมีการระบุไว้ในรูปแบบของตัวเลข เช่น 225/45R17

  • 225 คือความกว้างของหน้ายาง (มม.)
  • 45 คืออัตราส่วนความสูงของหน้ายางกับความกว้าง (เปอร์เซ็นต์)
  • R17 คือขนาดของล้อที่สามารถติดตั้งได้ (นิ้ว) ขนาดของยางที่เหมาะสมจะช่วยให้รถมีการยึดเกาะที่ดีขึ้นและการควบคุมที่แม่นยำ

         3. ดัชนีความเร็ว (Speed Rating) : ดัชนีความเร็วเป็นค่าที่บ่งบอกถึงความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถรองรับได้ โดยแบ่งเป็นหลายประเภท เช่น V, W, Y
  • V (240 กม./ชม.)
  • W (270 กม./ชม.)
  • Y (300 กม./ชม.) รถยนต์สมรรถนะสูงต้องการยางที่มีดัชนีความเร็วสูงเพื่อรองรับการขับขี่ที่มีความเร็วสูง

         4. ดัชนีการรับน้ำหนัก (Load Index) : ดัชนีนี้บ่งชี้ถึงน้ำหนักที่ยางสามารถรองรับได้ต่อการติดตั้งแต่ละเส้น ตัวเลขที่สูงขึ้นหมายถึงยางที่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น 91 คือยางที่สามารถรับน้ำหนักได้ 615 กิโลกรัมต่อเส้น


         5. การออกแบบดอกยาง (Tread Design) : ยางสมรรถนะสูงจะมีดอกยางที่ออกแบบเพื่อเพิ่มการยึดเกาะที่ดีบนถนนแห้งและเปียก โดยอาจจะเป็นรูปแบบที่เน้นการระบายความร้อนหรือการกระจายน้ำออกจากยางอย่างรวดเร็ว เช่น ดอกยางแบบไม่ลึก (shallow tread) เพื่อเพิ่มการสัมผัสกับถนน


         6. วัสดุและเทคโนโลยี (Tire Material and Technology) : ยางสมรรถนะสูงมักใช้วัสดุพิเศษที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะดีเยี่ยม เช่น ยางซิลิก้า, ยางพิเศษที่มีความยืดหยุ่นสูง และการเคลือบสารพิเศษ เพื่อให้ยางสามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่สูงและมีการยึดเกาะถนนที่มั่นคง

 

         7. อายุการใช้งานของยาง (Tire Longevity) : ยางสมรรถนะสูงมักจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่ายางทั่วไป เนื่องจากการออกแบบที่มุ่งเน้นที่การยึดเกาะและการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูง บางยี่ห้อมีการรับประกันอายุการใช้งานประมาณ 40,000 - 50,000 กม.

 

         8. ประเภทของการใช้งาน (Usage Conditions)

  • ถนนแห้ง : เลือกยางที่เน้นการยึดเกาะที่ดีในสภาพถนนแห้ง เช่น ยางแบบ Summer
  • ถนนเปียก : เลือกยางที่สามารถระบายน้ำได้ดีและยึดเกาะบนถนนเปียกได้ดี
  • การใช้งานในสนามแข่ง : ยางที่ออกแบบสำหรับสนามแข่งมักจะเป็นยางที่ไม่ใช้ในสภาพการใช้งานทั่วไป แต่จะมีสมรรถนะสูงสุดในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง

 


การเลือกยางตามสภาพถนนและสภาพอากาศ

  • ถนนแห้ง : ยางฤดูร้อน (Summer Tires) จะให้สมรรถนะที่ดีที่สุดในสภาพถนนแห้ง เนื่องจากดอกยางจะถูกออกแบบให้มีการสัมผัสที่ดีและเพิ่มการยึดเกาะ
  • ถนนเปียก : ยางที่มีการออกแบบดอกยางแบบกว้างและสามารถระบายน้ำได้ดีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเหวี่ยงหรือลื่นไถล
  • สภาพอากาศหนาว : หากคุณขับรถในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวหรือหิมะตก ยางที่เหมาะสมคือยางสำหรับฤดูหนาว (Winter Tires) ซึ่งจะมีดอกยางที่ช่วยให้ยึดเกาะได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีหิมะหรืออุณหภูมิที่ต่ำ

 


แบรนด์ยางที่แนะนำสำหรับรถสมรรถนะสูง

  • Michelin Pilot Sport : เป็นยางสมรรถนะสูงที่ได้รับการยอมรับในด้านการยึดเกาะถนนทั้งในสภาพแห้งและเปียก
  • Pirelli P-Zero : เป็นยางที่ได้รับความนิยมในรถยนต์สมรรถนะสูง เช่น Ferrari หรือ Lamborghini
  • Bridgestone Potenza : มีการออกแบบให้มีการยึดเกาะที่ดีและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม
  • Continental ContiSportContact : ยางที่มีสมรรถนะดีเยี่ยมในหลายสภาพถนน

สรุป
การเลือกยางที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ขนาดของยาง, การใช้งานในสภาพอากาศต่าง ๆ และลักษณะการขับขี่ของผู้ขับ การเลือกยางที่ดีที่สุดจะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น
 


 

 

 

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้