7 วิธีลดเบี้ย "ประกันรถยนต์" มีอะไรบ้างมาดูกัน

ไม่ว่าคุณจะขับรถยนต์สันดาปหรือรถยนต์ไฟฟ้า การมีประกันรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แม้จะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันทุกปี แต่หากรู้วิธีลดค่าเบี้ยประกัน ก็สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ วิธีเหล่านี้สามารถปรับใช้ได้ทั้งกับประกันรถยนต์ไฟฟ้าและประกันรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิง ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่า

เบี้ยประกันรถยนต์ คืออะไร?

เบี้ยประกันภัยรถยนต์หมายถึง เงินที่ผู้เอาประกันต้องชำระให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อแลกกับความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยราคาของเบี้ยประกันภัยรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามประเภทของประกันที่เลือก รวมถึงปัจจัยความเสี่ยง เช่น อายุ อาชีพ และประวัติการขับขี่ของผู้เอาประกันภัย

วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์

ในปีต่อไป คุณสามารถลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้:

1. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายบริษัท ปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยมากมาย การเปรียบเทียบเงื่อนไขและข้อเสนอจากแต่ละบริษัทช่วยให้คุณเลือกประกันที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับการใช้งานของคุณ

2. มีประวัติการขับขี่ที่ดี หากไม่มีการเคลมหรือเกิดอุบัติเหตุ คุณอาจได้รับส่วนลดตามปีของประวัติที่ดี:

• ไม่มีการเคลม 1 ปี: ลดเบี้ย 20%
• ไม่มีการเคลม 2 ปี: ลดเบี้ย 30%
• ไม่มีการเคลม 3 ปี: ลดเบี้ย 40%
• ไม่มีการเคลม 4 ปี: ลดเบี้ยสูงสุด 50%

3. ติดกล้องหน้าหรือหลังรถยนต์ การติดตั้งกล้องหน้าหรือกล้องหลังช่วยลดเบี้ยประกันได้ 5-10% เพราะกล้องถือเป็นหลักฐานสำคัญในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

4. เลือกประกันแบบระบุผู้ขับขี่ การระบุชื่อผู้ขับขี่ที่ใช้งานรถเพียง 1-2 คนช่วยลดเบี้ยได้ 5-20% โดยส่วนลดจะขึ้นอยู่กับอายุของผู้ขับขี่:

• อายุ 18-24 ปี: ลด 5%
• อายุ 25-35 ปี: ลด 10%
• อายุ 36-50 ปี: ลด 15%
• อายุ 50 ปีขึ้นไป: ลด 20%

5. เลือกซ่อมอู่แทนซ่อมห้าง การเลือกซ่อมอู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันช่วยลดค่าเบี้ยได้ แต่ควรเลือกอู่ที่มีมาตรฐานเพื่อความมั่นใจในคุณภาพการซ่อมแซม

6. ลดทุนประกันความคุ้มครอง การลดทุนประกันสามารถลดเบี้ยได้ แต่ควรพิจารณาว่าทุนประกันเพียงพอต่อการซ่อมแซมหรือซื้อรถใหม่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือไม่

7. ลดความคุ้มครองบางส่วน หากประเมินแล้วว่าโอกาสเกิดเหตุ เช่น รถหายหรือไฟไหม้ มีน้อย สามารถเลือกลดความคุ้มครองเหล่านี้เพื่อประหยัดค่าเบี้ย หรือพิจารณาทำประกันชั้นอื่นที่เหมาะสมกว่าแทนประกันชั้น 1

ประกันรถยนต์กับ พ.ร.บ. รถยนต์ ต่างกันอย่างไร?

พ.ร.บ. รถยนต์ คือ ประกันภาคบังคับที่ทุกคนต้องมี โดยให้ความคุ้มครองในกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยมีวงเงินคุ้มครองดังนี้:

• ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น: ไม่เกิน 30,000 บาท (ไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด)
• กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร: ไม่เกิน 35,000 บาท
• ค่ารักษาพยาบาลกรณีไม่ผิด: ไม่เกิน 80,000 บาท
• กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร: ไม่เกิน 300,000 บาท
• ค่าชดเชยรายวัน: 200 บาทต่อวัน (สูงสุด 20 วัน)

 
ประกันรถยนต์ มีหลายประเภท เช่น ประกันชั้น 1, 2+, 2, 3+, และ 3 โดยเงื่อนไขและความคุ้มครองจะแตกต่างกัน สามารถเลือกได้ตามความต้องการ เช่น:

• ประกันชั้น 1: คุ้มครองทั้งรถของคุณและคู่กรณี
• ประกันชั้นอื่น ๆ: คุ้มครองเฉพาะคู่กรณีหรือความเสียหายบางประเภท

การเลือกประกันรถยนต์ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการของคุณเพื่อประโยชน์สูงสุด

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พ.ร.บ. รถยนต์

เลือกซื้อประกันทั้งที เลือกองค์กรที่เน้นบริการหลังการขาย ต้องที่ ธีร์ ทำดีแคร์ แคร์คุณ เข้าใจคุณ ทุกช่วงของชีวิต
องค์กรของเราได้รับรางวัล 3 ปี 3 รางวัลระดับประเทศ เน้นบริการหลังการขาย อันดับ 1 ในออนไลน์ มีโปรแบ่งชำระ 3-10 งวด กับบริษัทที่ร่วมรายการกว่า 20 บริษัท ดูแลลูกค้ามากว่า 20,000 ฉบับทั่วไทย เน้นบริการ ซื่อสัตย์ ใส่ใจคุณ

อัปเดตข่าวสารล่าสุด และความรู้เกี่ยวกับประกันรถยนต์ ได้ที่ thumdeecorporation.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์  096-192-9698