ประกันรถยนต์แบบไหนเหมาะกับรถมือสอง?

รถมือสองเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาที่ประหยัดกว่าและค่าเสื่อมราคาที่ลดลงเมื่อเทียบกับรถใหม่ อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันภัยสำหรับรถมือสองต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น อายุรถ สภาพรถ และความคุ้มค่าของการทำประกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถมือสองของคุณ

ประเภทของประกันรถยนต์ในไทย

ก่อนจะเลือกประกันที่เหมาะสม เราควรทำความเข้าใจก่อนว่าประกันรถยนต์มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง

1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

เหมาะกับ: รถมือสองที่อายุไม่เกิน 7-10 ปี และมีมูลค่าสูง

• คุ้มครองทั้งรถคุณและคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี
• คุ้มครองความเสียหายจากการชน ไฟไหม้ น้ำท่วม และการโจรกรรม
• เบี้ยประกันแพงกว่าประกันชั้นอื่น แต่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด

เหมาะกับใคร?

• เจ้าของรถที่ต้องการความอุ่นใจเต็มรูปแบบ
• คนที่ยังผ่อนรถมือสองอยู่และต้องการความคุ้มครองสูงสุด

2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+

เหมาะกับ: รถมือสองที่อายุไม่เกิน 15 ปี และยังมีมูลค่าพอสมควร

• คุ้มครองรถของคุณจากการชน (แต่ต้องเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี)
• คุ้มครองกรณีรถสูญหาย ไฟไหม้
• เบี้ยประกันถูกกว่าชั้น 1 แต่ให้ความคุ้มครองที่ยังค่อนข้างดี

เหมาะกับใคร?

• คนที่ใช้รถไม่บ่อย และขับรถอย่างระมัดระวัง
• ผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านประกันภัย แต่ยังต้องการความคุ้มครองที่เหมาะสม

3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

เหมาะกับ: รถมือสองอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่ยังใช้งานอยู่เป็นประจำ

• คุ้มครองค่าซ่อมรถคุณในกรณีชนกับยานพาหนะอื่นที่มีคู่กรณี
• ไม่คุ้มครองกรณีรถสูญหาย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ
• เบี้ยประกันถูกกว่าชั้น 2+ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัด

เหมาะกับใคร?

• คนที่ใช้รถค่อนข้างน้อย ขับในระยะทางสั้น
• คนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

4. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3

เหมาะกับ: รถมือสองที่มีอายุเกิน 20 ปี หรือมีมูลค่าต่ำ

• คุ้มครองเฉพาะค่าความเสียหายของคู่กรณี ไม่คุ้มครองรถของคุณ
• เหมาะกับรถที่แทบไม่ใช้หรือมีมูลค่าต่ำมาก
• เบี้ยประกันถูกที่สุด

เหมาะกับใคร?

คนที่ใช้รถน้อยมาก และต้องการประกันไว้เพื่อคุ้มครองคู่กรณีเท่านั้น
คนที่ไม่ต้องการซ่อมรถของตัวเองผ่านประกัน

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกประกันรถมือสอง

1. อายุและสภาพของรถ

• รถที่อายุไม่เกิน 7-10 ปี ควรเลือก ชั้น 1 หรือ 2+
• รถอายุ 10-15 ปี อาจเลือก ชั้น 2+ หรือ 3+
• รถเก่าเกิน 15 ปี อาจเลือก ชั้น 3+ หรือ 3

2. มูลค่ารถ

• หากรถยังมีราคาสูง ควรเลือกชั้น 1 หรือ 2+ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่เหมาะสม
• หากรถมีราคาต่ำ อาจเลือกชั้น 3+ หรือชั้น 3 เพื่อลดค่าใช้จ่าย

3. ลักษณะการใช้งาน

• ใช้รถทุกวัน ควรเลือกชั้น 1 หรือ 2+
• ใช้รถไม่บ่อย อาจเลือกชั้น 3+
• ใช้เฉพาะขับใกล้บ้าน อาจเลือกชั้น 3

4. งบประมาณที่สามารถจ่ายได้

• หากมีงบมาก ควรเลือกชั้น 1 เพื่อความอุ่นใจ
• หากต้องการประหยัดแต่ยังได้ความคุ้มครอง ควรเลือกชั้น 2+
• หากงบจำกัดมาก เลือกชั้น 3+ หรือ 3 เพื่อจ่ายเบี้ยประกันน้อยที่สุด

สรุป: เลือกประกันรถมือสองแบบไหนดีที่สุด?

• หากรถยังใหม่ (<10 ปี) และมีมูลค่าสูง → เลือกประกันชั้น 1
• หากรถอายุ 10-15 ปี และยังต้องการความคุ้มครอง → เลือกชั้น 2+
• หากรถเก่ามากแต่ยังใช้งานทุกวัน → เลือกชั้น 3+
• หากรถเก่ามาก (>20 ปี) และไม่กังวลเรื่องซ่อมรถตัวเอง → เลือกชั้น 3

การเลือกประกันรถยนต์สำหรับรถมือสองควรพิจารณาตามความคุ้มค่าและความจำเป็นในการใช้งาน หากต้องการความคุ้มครองสูงสุดและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ชั้น 1 หรือ 2+ เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการประหยัดและรับความเสี่ยงได้ ชั้น 3+ หรือ 3 ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม

เลือกซื้อประกันทั้งที เลือกองค์กรที่เน้นบริการหลังการขาย ต้องที่ ธีร์ ทำดีแคร์ แคร์คุณ เข้าใจคุณ ทุกช่วงของชีวิต
องค์กรของเราได้รับรางวัล 3 ปี 3 รางวัลระดับประเทศ เน้นบริการหลังการขาย อันดับ 1 ในออนไลน์ มีโปรแบ่งชำระ 3-10 งวด กับบริษัทที่ร่วมรายการกว่า 20 บริษัท ดูแลลูกค้ามากว่า 20,000 ฉบับทั่วไทย เน้นบริการ ซื่อสัตย์ ใส่ใจคุณ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์  096-192-9698